S__28590099

เจ็บป่วยอย่างไร ให้คนที่เรารักไม่ต้องเป็นห่วง ด้วย “ประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health” <โตเกียวมารีน x ลงทุนเกิร์ล>

ยุคนี้ต้องยอมรับว่า ผู้หญิงกำลังมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากจะรับบทบาท Working Women นอกบ้านแล้ว
กลับบ้านมาก็ต้องพร้อมทำหน้าที่ภรรยา, แม่ของลูก หรือลูกของพ่อแม่
ด้วยความห่วงใยที่มีต่อคนรักและครอบครัวที่มีอยู่เต็มอก
บางครั้งก็ทำให้เรากลับมานั่งคิดว่า.. หากวันหนึ่งเราเจ็บป่วยหรือเป็นอะไรไป คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
เพราะนอกจากอาการเจ็บป่วยแล้ว การรักษาตัวในปัจจุบัน ยังมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายก้อนโตด้วย
การวางแผนรับมือไว้ล่วงหน้า จึงเป็นการลดความเสี่ยงจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
วิธีหนึ่งที่ถือเป็นตัวช่วยในเรื่องนี้ ก็คือการมองหาประกันสุขภาพที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้ไป
ซึ่งหนึ่งในประกันสุขภาพที่น่าสนใจในตอนนี้
คือ “ประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health”
เพราะเป็นประกันเหมาจ่ายที่คุ้มครอง “ทุกโรคภัย”
รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ที่ประกันเหมาจ่ายทั่วไปอาจไม่ครอบคลุม
และยังมีให้ผลประโยชน์เพิ่มเติม ในกรณีที่เป็นโรคร้ายอีกด้วย
ทำไมเราถึงต้องการประกันสุขภาพที่ครอบคลุมรอบด้าน​ ?
รู้หรือไม่ว่า จากสถิติสาธารณสุขปี 2562
มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งและเนื้องอกทุกชนิด 84,073 คน
โรคระบบไหลเวียนโลหิต 74,455 คน
โรคของระบบทางเดินหายใจ 48,070 คน
และที่สำคัญคือ ถ้าไปดูสถิติผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่
มีสัดส่วนเป็นผู้หญิงสูงถึง 61%
โดยมักจะเป็นมะเร็งเต้านม 40%
มะเร็งปากมดลูก 15.3%
และมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก 9.5%
จะเห็นได้ว่า โรคร้ายแรงเหล่านี้ใกล้ตัวผู้หญิงอย่างเรามากกว่าที่หลายคนคิด
ซึ่งความน่ากลัวของเรื่องนี้ คือมันอาจจะเกิดขึ้นกับตัวเราเมื่อใดก็ได้..
Tokio Good Health จึงถูกออกแบบให้เป็นประกันสุขภาพเหมาจ่าย
ที่ให้ความคุ้มครอง 17 หมวดค่าใช้จ่าย ครอบคลุม 18 โรคร้าย
มีวงเงินค่าห้อง 2,000-25,000 บาทต่อคืน
คุ้มครองจากอาการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ 500,000-120,000,000 บาท
พร้อมเพิ่มวงเงินความคุ้มครองเป็น 2 เท่า กรณีป่วยด้วย 18 โรคร้าย สูงสุด 240,000,000 บาท
เช่น โรคมะเร็งระยะลุกลาม, โรคหลอดเลือดสมองแตก, โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
จึงสร้างความอุ่นใจ และช่วยคุ้มครองเราในยามเจ็บป่วยได้
เพราะอย่างที่ทราบกันว่า การรักษาอาการเจ็บป่วยหลาย ๆ โรคในปัจจุบัน
ก็มีค่าใช้จ่ายในการรักษาระดับแสนบาท อาทิ
– ค่ารักษามะเร็งปากมดลูก เทคนิค 3 มิติ เป็นเงิน 144,400 บาท
– ค่าผ่าตัดขยายหลอดเลือดหัวใจ เทคนิคบอลลูน PCI/PCI Transradial เป็นเงิน 170,000 บาท
แต่เรื่องที่ทำให้เรากังวลใจไม่น้อยก็คือ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครองของประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั่ว ๆ ไป
ทำให้เราจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนั้นเอง
ด้วยเหตุนี้ Tokio Good Health จึงได้ออกแบบความคุ้มครองครอบคลุม 17 หมวดค่าใช้จ่าย
ซึ่งมากกว่ารูปแบบประกันเหมาจ่ายทั่วไป ที่จะคุ้มครองเพียง 13 หมวดค่าใช้จ่าย
แล้ว 4 หมวดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาของ Tokio Good Health คืออะไร ?
– หมวดค่าห้องพักพ่อแม่บุตรที่อายุไม่เกิน 18 ปี สูงสุด 30 วัน ในกรณีอยู่เฝ้าไข้บุตรที่โรงพยาบาล
– หมวดค่าเวชภัณฑ์ที่โดยปกติเป็นข้อยกเว้น เช่น อวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย, เครื่องช่วยหายใจ, รถเข็น Tokio Good Health จ่ายให้
– หมวดค่าพยาบาลดูแลที่บ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาล สูงสุด 28 วัน
– หมวดค่าตรวจสุขภาพ OPD และวัคซีน
พูดง่าย ๆ ว่า Tokio Good Health ช่วยให้ “ครอบครัว” และ “คนที่เรารัก”
เกิดความมั่นใจได้ว่า ในวันที่เราเจ็บป่วย เราจะได้รับความคุ้มครอง และสามารถดูแลตนเองได้
โดยครอบครัวไม่ต้องเป็นกังวลใด ๆ เรื่องของค่าใช้จ่าย นั่นเอง
มาถึงตรงนี้ ก็คงจะอดคิดในใจไม่ได้ว่า..
ในเมื่อ Tokio Good Health ช่วยให้เรารับมือกับความเสี่ยงด้านสุขภาพได้แล้ว
เราเองก็สามารถทำประกันสุขภาพดี ๆ เช่นนี้ให้กับ “ครอบครัว” และ “คนที่เรารัก” ได้เช่นกัน
ลองมาดูตัวอย่างเบี้ยประกันรายปี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุและเพศกันบ้าง
กรณีเป็นเพศชาย
– อายุ 31-35 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 15,465 บาทต่อปี หรือ 1,353 บาทต่อเดือน
– อายุ 36-40 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 16,651 บาทต่อปี หรือ 1,457 บาทต่อเดือน
– อายุ 41-45 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 17,835 บาทต่อปี หรือ 1,561 บาทต่อเดือน
กรณีเป็นเพศหญิง
– อายุ 31-35 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 17,373 บาทต่อปี หรือ 1,520 บาทต่อเดือน
– อายุ 36-40 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 18,515 บาทต่อปี หรือ 1,620 บาทต่อเดือน
– อายุ 41-45 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 20,791 บาทต่อปี หรือ 1,819 บาทต่อเดือน
ซึ่งการจ่ายเบี้ยประกันข้างต้นที่ว่านี้ จะเป็นของแผนประกัน 2000
หรือก็คือแผนประกันเริ่มต้นของ Tokio Good Health โดยจะได้รับความคุ้มครอง นั่นคือ
– ความคุ้มครองค่าห้อง 2,000 บาทต่อคืน
– ความคุ้มครองจากอาการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ 500,000 บาท
– ความคุ้มครองจาก 18 โรคร้าย 1,000,000 บาท
จะเห็นได้ว่า ความห่วงใยที่เรามีต่อคนรักและครอบครัว
คงไม่ใช่แค่เรื่องของการเติมเต็มให้กัน แต่ยังรวมไปถึงการเตรียมพร้อมตนเอง
เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวยังคงเดินหน้าต่อไปได้อย่างปลอดภัย แม้ในวันที่เรากำลังเจ็บป่วยอยู่ก็ตาม..
ด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health ให้กับตนเองและครอบครัว นั่นเอง
ทั้งนี้ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health อยู่ภายใต้การดูแลของ บมจ. โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มโตเกียวมารีนที่ดำเนินธุรกิจประกันภัยมากกว่า 140 ปี ดำเนินธุรกิจ 46 ประเทศทั่วโลก
สำหรับผู้ที่สนใจทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tokiomarine.com/…/tokio-good-health.html
S__28590097

ทำไม Tokio Good Health จึงเป็น ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่คุ้มค่า โตเกียวมารีนประกันชีวิต x ลงทุนแมน

หากพูดถึงการลงทุน..
เรามักจะนึกถึงการนำเงินไปลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้เติบโต
จนลืมคำนึงไปว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
ความเจ็บป่วยหรือโรคร้ายจะเกิดขึ้นกับเรา เมื่อใดก็ได้
การลงทุน จึงไม่ใช่แค่วิธีหาผลตอบแทนในรูปตัวเงิน เพียงอย่างเดียว
แต่ยังช่วยโอนถ่ายความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนเหล่านี้ได้
นั่นก็คือ การทำประกันสุขภาพ
ปัจจุบันนี้ มีประกันสุขภาพให้เลือกมากมาย
แล้วประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health จะสร้างความคุ้มค่าได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
486 เมืองใน 46 ประเทศทั่วโลก
คือ อาณาจักรธุรกิจประกันของโตเกียวมารีน
ซึ่งเป็นหนึ่งกลุ่มประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
กลุ่มโตเกียวมารีน มีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 234.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
และยังได้การจัดอันดับ AAA Stable ของ JCR A+ Stable ของ S&P รวมทั้ง Aa3 Stable ของ Moody’s
สะท้อนได้ถึงเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว
ปัจจุบัน โตเกียวมารีนประกันชีวิต ไม่เพียงเป็นธุรกิจประกันสัญชาติญี่ปุ่นที่น่าเชื่อถือ
แต่ยังมีรายละเอียดของ รูปแบบประกันสุขภาพ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
รู้หรือไม่ว่า ปกติแล้ว ประกันสุขภาพเหมาจ่าย
จะให้ความคุ้มครองครอบคลุม 13 หมวด ตามมาตรฐานของ คปภ.
อาทิ ค่าบริการทางการแพทย์, ค่าบริการในโรงพยาบาล, ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู
แต่สำหรับประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health ของโตเกียวมารีนประกันชีวิต
จะให้ความคุ้มครองทั้งหมด 17 หมวด ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 4 หมวด นั่นคือ
– ค่าห้องพักพ่อแม่บุตรที่อายุไม่เกิน 18 ปี สูงสุด 30 วัน
– ค่าเวชภัณฑ์ที่เป็นข้อยกเว้น เช่น อวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย, เครื่องช่วยหายใจ, รถเข็น
– ค่าพยาบาลดูแลที่บ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาล 28 วัน
– ค่าตรวจสุขภาพ OPD และวัคซีน
จุดนี้เองคือความคุ้มค่าของคำว่า “เหมาจ่าย” ของ Tokio Good Health
ที่ไม่สามารถพบได้จากประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั่วไป
ที่น่าสนใจคือ กรณีเจ็บป่วยด้วย 18 โรคร้ายแรง
อาทิ โรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, โรคไตวาย, ภาวะกระดูกอักเสบ, โรคหลอดเลือดอุดตัน
ยังให้วงเงินคุ้มครองเพิ่มขึ้นเท่าตัว สูงสุด 240 ล้านบาท เป็นเจ้าแรกในตลาดอีกด้วย
ทั้งนี้ยังตอบรับกับนวัตกรรมการรักษาพยาบาลใหม่ ๆ อาทิ ค่ารักษามะเร็งแบบออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจง (Targeted Therapy)
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่าการลงทุนซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย Tokio Good Health
นอกจากจะได้รับผลประโยชน์จาก 4 หมวดเพิ่มเติมแล้ว
ยังจะได้รับวงเงินคุ้มครองเพิ่มเป็นเท่าตัวในกรณี 18 โรคร้าย และยังรองรับนวัตกรรมการรักษาใหม่ อีกด้วย
พูดง่าย ๆ ว่า Tokio Good Health จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากความเสี่ยงด้านสุขภาพได้ดีทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายหลายโรค มักจะอยู่ในระดับหลักแสนบาท
อาทิ
– ค่ารักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง เทคนิค 3 มิติ เป็นเงิน 110,000 บาท
– ค่าผ่าตัดขยายหลอดเลือดแดง ด้วยบอลลูน PCI/PCI Transradial เป็นเงิน 170,000 บาท
นั่นหมายความว่า หากโรคร้ายเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเรา
ผลตอบแทนจากการลงทุนที่เราวางแผนไว้อย่างดี ก็มีโอกาสที่จะหมดไปกับการรักษาตัวได้
ดังนั้น การโอนถ่ายความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนเหล่านี้ได้
จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นทุนหลักในการรักษาตัว ไม่กระทบต่อพอร์ตการลงทุนของเรา นั่นเอง
แล้วเราต้องจ่ายเบี้ยประกันรายปี Tokio Good Health มากน้อยเท่าไร ?
บางคนวางแผนการเงิน หาข้อมูลเพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีที่สุดแต่เกิดเหตุไม่คาดคิดมีปัญหาสุขภาพ สุดท้ายกำไรที่ได้มาหรืออาจรวมถึงเงินเริ่มต้นลงทุนด้วย หายไปกับค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
ปัจจุบัน Tokio Good Health มีทั้งหมด 9 แผนประกัน
เริ่มต้นวงเงินค่าห้อง 2,000-25,000 บาทต่อคืน
เริ่มต้นวงเงินคุ้มครองจากอาการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ 5 แสนบาท-120 ล้านบาท
และจะเพิ่มวงเงินคุ้มครองเป็นเท่าตัวสำหรับ 18 โรคร้าย เริ่มต้น 1-240 ล้านบาท
ยกตัวอย่างเช่น
แผน 2,000 ซึ่งเป็นแผนประกันเริ่มต้นของ Tokio Good Health
– มีวงเงินค่าห้อง 2,000 บาทต่อคืน
– มีวงเงินคุ้มครองจากอาการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ 500,000 บาท
– มีวงเงินคุ้มครองจาก 18 โรคร้าย 1,000,000 บาท
โดยระดับเบี้ยประกันรายปี จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุและเพศ
กรณีเป็นเพศชาย
– อายุ 31-35 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 15,465 บาทต่อปี
– อายุ 36-40 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 16,651 บาทต่อปี
– อายุ 41-45 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 17,835 บาทต่อปี
กรณีเป็นเพศหญิง
– อายุ 31-35 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 17,373 บาทต่อปี
– อายุ 36-40 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 18,515 บาทต่อปี
– อายุ 41-45 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 20,791 บาทต่อปี
จะเห็นได้ว่า การจ่ายเบี้ยประกันหลักหมื่นบาทต่อปี
ก็สามารถมีวงเงินคุ้มครองสุขภาพหลักแสน หลักล้านบาทต่อปีได้ ลงทุนน้อยผลตอบแทนมาก
ที่น่าสนใจคือ แม้เราจะไม่เจ็บป่วยใด ๆ ในปีนั้น ๆ
ก็ยังได้รับผลประโยชน์ในรูปของ “ค่าตรวจสุขภาพประจำปี” และ “ค่าวัคซีน”
ที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่ปีแรก (ระยะเวลารอคอย 300 วัน) อีกด้วย
แม้ผลตอบแทนของการลงทุน Tokio Good Health จะไม่ได้อยู่ในรูปตัวเงิน
แต่ความคุ้มค่าของผลตอบแทนที่เราจะได้รับ
ก็คือ ความอุ่นใจ จากการโอนถ่ายความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ นั่นเอง..
สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อตัวแทนโตเกียวมารีนประกันชีวิตทั่วประเทศ หรือศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.tokiomarine.com/…/tokio-good-health.html
References:
-เอกสารประชาสัมพันธ์ โตเกียวมารีนประกันชีวิต